นวัตกรรมชะลอวัย
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากแก่ ไม่มีใครอยากเจ็บป่วย ไม่มีใครอยากเห็นริ้วรอยและร่องรอยของความชราบนร่างกายเรา หลายๆคนยอมทำทุกอย่างไม่ว่าจะต้องเจ็บตัว ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ก็ยอมฉีด ยอมทา ยอมกิน อะไรก็ได้ที่ทำให้ไม่แก่ ไม่เหี่ยว ไม่ห้อย หลายๆคนต้องพึ่งพาแอพพลิเคชั่นแต่งรูปในมือถือเพราะไม่อยากให้ใครมองเห็นริ้วรอยที่มาตามวัย ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตามจะเห็นได้ว่ามนุษย์เราหาทางที่จะต่อสู้กับธรรมชาติมาเป็นเวลานับพันปีแล้วในเรื่องของการชะลอวัย (anti-aging)
อนุมูลอิสระ
ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้เราได้มีข้อมูลมากขึ้นว่า อะไรที่เป็นสาเหตุให้เกิดความแก่และความเสื่อมในร่างกาย นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าอนุมูลอิสระ (Free Radical) ที่เกิดขึ้นทุกๆวันในร่างกาย เป็นสาเหตุสำคัญของความอ่อนแอและความเสื่อมในร่างกาย ร่างกายของมนุษย์ประกอบขึ้นจากเซลล์เล็กๆ นับพันล้านเซลล์ ชีวิตประจําวันที่รีบเร่ง มีส่วนทําให้เรารับและสะสมอนุมูลอิสระไว้ภายในร่างกายจํานวนมหาศาล ผ่านกระบวนการกิน การสูบบุหรี่ การออกกําลังกายอย่างหักโหม และการสัมผัสมลพิษรอบๆตัว
อนุมูลอิสระเหล่านี้เองที่จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่สามารถเปรียบได้กับการระเบิดเล็กๆ จํานวน มากมายกับเซลล์ทั่วร่างกาย
อนุมูลอิสระเหล่านี้เองที่จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่สามารถเปรียบได้กับการระเบิดเล็กๆ จํานวน มากมายกับเซลล์ทั่วร่างกาย แม้ว่าเราอาจจะไม่สามารถรู้สึกถึงแรงระเบิดที่เกิดขึ้น แต่ผลลัพธ์จากการระเบิดนั้นอาจสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับเซลล์ต่างๆ จนร่างกายไม่อาจฟื้นฟูให้กลับมามีสภาพดังเดิมได้
การระเบิดเล็กๆ ที่เกิดขึ้นในระดับเซลล์นี้ เรียกว่าปฏิกิริยาอ็อกซิเดชั่น และจะทําให้เซลล์เกิดความเสียหายได้ อย่างคาดไม่ถึง ซึ่งผลจากการอ็อกซิเดชั่นจํานวนนับครั้งไม่ถ้วนเหล่านี้ จะทําให้ร่างกายเกิดความเสื่อมถอยไปเรื่อยๆ
เปรียบได้กับการปล่อยให้รถยนต์เกิดสนิมโดยไม่มีมาตรการป้องกันที่ได้ผล เมื่อเวลาผ่านไปรถยนต์คันนี้อาจจะแสดงอาการผิดปกติอย่างหนึ่งอย่างใดออกมาให้เห็น ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามีอะไหล่บางชิ้นของรถคันนี้ถูกสนิมเล่นงานจนไม่อาจทํางานได้อย่างสมบูรณ์อีกต่อไป และหลายๆกรณี ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ร่างกายก็ไม่สามารถทดแทนได้ด้วยการเปลี่ยนอะไหล่เหมือนรถยนต์
การที่อวัยวะต่างๆถูกโจมตีด้วยอนุมูลอิสระอยู่ตลอดเวลา ย่อมนำมาซึ่งอุบัติการณ์ของโรคที่ร้ายแรงต่างๆ อาทิเช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ และอื่นๆ ถึงแม้ร่างกายจะมีขบวนการกำจัดอนุมูลอิสระเองอยู่แล้ว แต่ประสิทธิภาพในการจัดการจะลดลงตามอายุและพฤติกรรมการบริโภค ดังนั้น ร่างกายจึงจำเป็นที่จะต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) เพื่อเข้าไปปลดชนวนปฏิกิริยาลูกโซ่ของอนุมูลอิสระจำนวนมหาศาลเหล่านั้น
สารต้านอนุมูลอิสระ
แซนโทน (Xanthones) เป็นชื่อของสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่อยู่ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ แซนโทนพบมากในเปลือกของมังคุด รองลงมาคือในเม็ด ส่วนในเนื้อของมังคุดพบได้น้อย จากงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์กว่า 10 ปี พบว่าในธรรมชาตินั้นมีแซนโทนแตกต่างกันถึง 200 ชนิดที่ถูกพบในผลไม้และสมุนไพรอื่นๆ ซึ่งมีสารแซนโทนอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากเหมือนที่ถูกพบในมังคุดอย่างเดียว ที่มีสารแซนโทนมากกว่า 40 ชนิด สารดังกล่าวมีคุณค่ามากมาย ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลการทํางานของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ให้ทํางานปกติและเหมาะสม
สิ่งที่ทําให้แซนโทนมีความโดดเด่นเหนือสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆที่พบในธรรมชาติ นั่นคือนอกจากแซนโทนจะสามารถทําหน้าที่ในการต้านอนุมูลอิสระได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว แซนโทนยังก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ร่างกายในหลายประการ ดังนี้ ฤทธิ์ในการลดอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อไวรัสที่อยู่นอกเซลล์ และเชื้อรา ทําให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถจัดการกับสิ่งแปลกปลอมทางชีวภาพได้ดียิ่งขึ้น ลดการเกิด Oxidized LDL Cholesterols ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือด และโรคหัวใจขาดเลือด ลดอาการอักเสบช้ำบวม, ลดอาการปวดหัวและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อต่างๆ ทั่วร่างกาย
ORAC SCORE (ค่าโอแรคสกอร์ )
คําว่าคะแนนโอแรค หรือโอแรคสกอร์ (ORAC Score) หมายถึงคะแนนที่กําหนดขึ้นมา เพื่อใช้วัดความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของอาหาร ซึ่งมาจากคําเต็มว่า Oxygen Radical Absorbance Capacity ซึ่งค่าคะแนนโอแรคจะทําให้เราทราบว่าอาหารสองชนิดที่มีปริมาณที่เท่ากัน หากอาหารชนิดใดให้ค่าคะแนนโอแรคสูงกว่า ย่อมหมายความว่าอาหารชนิดนั้นมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า เพื่อไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่อและเสียเงินไปมากมายกับการ ซื้อสินค้าคุณภาพต่ำในราคาแพงลิบลิ่ว เราจําเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานและวิธีการที่เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศเพื่อตรวจหาค่าคะแนนโอแรค ซึ่งสามารถระบุความสามารถที่แท้จริงของอาหารในการต้านอนุมูลอิสระในร่างกายมนุษย์
สินค้าบางชนิดอาจโฆษณาว่าโอแรคสกอร์สูง แต่เมื่อดูส่วนผสมแล้วบางครั้งมีการใส่วิตามิน C จำนวนมากเพื่อเพิ่มคะแนนโอแรคให้สูงขึ้น หรือสินค้าบางอย่างใช้หัวเชื้อเข้มข้นเพื่อให้ได้ค่าโอแรคสกอร์สูง แต่เมื่อจะรับประทานจริงต้องนำมาผสมน้ำเพื่อให้เจือจางลง ซึ่งแน่นอนว่าค่าโอแรคก็ถูกเจือจางน้อยลงไปด้วย สินค้าของเราไม่มีการใช้หัวเชื้อเข้มข้น ไม่มีการใส่สารเร่งคะแนนโอแรคใดๆ เป็นการสกัดจากธรรมชาติโดยใช้ผลไม้สด ค่าโอแรคสกอร์ที่ได้จึงมาจากสารสำคัญโดยเฉพาะแซนโทนที่มีปริมาณสูงมากที่เราสกัดได้
ค่าคะแนนโอแรคของซุปเปอร์โฟร์แรคได้รับการตรวจรับรองจากห้องแล็ปที่น่าเชื่อถือและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คือ Brunswick Laboratory ประเทศสหรัฐอเมริกา มีใบรับรองยืนยัน ซุปเปอร์โฟร์แรค 1 ขวด 750 ML. มีค่าคะแนนโอแรคเท่ากับ 302,250 คะแนนต่อขวด หรือเท่ากับ 403,830 คะแนนต่อลิตร สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำซุปเปอร์ฟรุ๊ตสกัดจากคู่แข่งทั่วโลก
