
เปลือกมังคุดสามารถฆ่าแบคทีเรียในเซลล์เม็ดเลือดขาว


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันทางยาของสารคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ (โพลีแซคคาไลด์) จากเปลือกมังคุด
คณะวิจัย : จากภาควิชา Clinical Microscopy, Faculty of Associated Medical Sciences มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประเทศไทย
สรุปผลการวิจัย : พบว่าสารแซนโทนจากเปลือกมังคุดสามารถฆ่าแบคทีเรียในเซลล์เม็ดเลือดขาว ป้องกันอาการภูมิแพ้และ อาการข้อต่ออักเสบ อีกทั้งยังสามารถทำลายแบคทีเรียของเซลล์ภายในได้อีกด้วย


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการยับยั้งการเกิดสารภูมิแพ้ (ฮีสตามีน) และยับยั้งการเกิดสารโพสตราแกรนดิน ที่เป็นต้นเหตุของการอักเสบ โดยใช้ สารสกัดจากมังคุด
คณะวิจัย : จากภาควิชา Pharmaceutical Molecular Biology, Graduate School of Pharmaceutical Sciences มหาวิทยาลัย Tohoku เมือง Sendai ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : พบว่า สารสกัดจากมังคุดสามารถยับยั้งการเกิดสารภูมิแพ้ (ฮีสตามีน) และยับยั้งการเกิดสารโพสตราแกรนดิน (prostaglandin E2) ที่เป็นต้นเหตุของการอักเสบได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาของสารประกอบธรรมชาติ alfa-mangostinในมังคุด ที่มีผลในการต่อต้าน อาการแพ้และการอักเสบช้ำบวม
คณะวิจัย : จากภาควิชา Pharmaceutical Molecular Biology, คณะเภสัชกรรม มหาวิทยาลัย Tohoku เมือง Sendai ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : พบว่า สารสกัดจากมังคุดสามารถยับยั้งกระบวนทำงานของสารฮีสตามีนในร่างกาย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการรักษาอาการภูมิแพ้ และการอักเสบช้ำบวม


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการต้านอนุมูลอิสระในมะเร็งเต้านมโดยใช้มังคุดในการศึกษา
คณะวิจัย : จากภาควิชาจุลชีววิทยา, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนศรีอยุธยา ราชเทวี กรุงเทพ 10400 ประเทศไทย
สรุปผลการวิจัย : การศึกษานี้พบว่าสารสกัดจากเปลือกมังคุดสามารถยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งในรูปแบบอื่นๆได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับอนุพันธ์ของแซนโทนชนิด Garcinone E และฤิทธ์ในการต้านเซลล์พิษที่เป็นต้นเหตุของโรคมะเร็ง
คณะวิจัย : จากภาควิชา Medical Research & Education, Veterans General Hospital กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
สรุปผลการวิจัย : ผู้วิจัยได้ทำการสกัดสารแซนโทน 6 ชนิด จากเปลือกของมังคุด และได้นำมาทดลองกับผู้ป่วยโรคมะเร็งตับ 14 ราย
เปรียบเทียบกับการใช้ยารักษาจากแพทย์แผนปัจจุบัน (คีโม) ผลลัพท์ที่ได้คือ สาร garcinone E ในเปลือกมังคุดส่งผลในการกำจัดเซลล์พิษของมะเร็งปอดและมะเร็งตับ และผลของการทดลองระบุว่าสาร garcinone E ในเปลือกมังคุดมีแนวโน้มที่จะถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการรักษาโรคมะเร็งชนิดอื่นๆด้วย


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงความสามารถของสารประกอบแซนโทนในการป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดแดงใหญ่ และโรคหัวใจ
คณะวิจัย : จากภาควิชา Pharmacology, School of Pharmaceutical Sciences มหาวิทยาลัย Central South เมือง Changsha ประเทศจีน
สรุปผลการวิจัย : การศึกษาชิ้นนี้พบว่าสารประกอบแซนโทนมีความสามารถในการป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดแดงใหญ่ และโรคหัวใจ


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการยับยั้งปฎิกิริยา อ็อกซิเดชั่นของไขมันชั้นเลว (คอเรสตอรอล) โดยใช้สารอนุพันธ์ของแซนโทนจากผลมังคุด
คณะวิจัย : จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ประเทศไทย
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่าสารแซนโทนจากเปลือกมังคุดสามารถยับยั้งปฎิกิริยาอ็อกซิเดชั่นของไขมันชั้นเลว (คอเรสตอรอล) และเมื่อมีการศึกษาเพิ่มเติม ก็พบว่า สารแซนโทนยังมีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ฉะนั้นเมื่อการอ็อกซิเดชั่นของไขมันชั้นเลวถูกยับยั้ง ไขมันชั้นเลวจึงไม่สามารถก่อให้เกิดโรคหัวใจได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงความสามารถของสารประกอบแซนโทนในการเป็นตัวการการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในมนุษย์ และการส่งผลต่อการเพิ่มจำนวนของเม็ดเลือดขาว
สรุปผลการวิจัย : คณะวิจัยได้ทำการศึกษาประสิทธิภาพของสารประกอบแซนโทนจำนวน 27 ชนิดที่แตกต่างกันในหลอดทดลอง
และสรุปผลว่าประสิทธิภาพของสารประกอบแซนโทนที่มีผลในการยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเหล่านี้แตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิดของสารประกอบแซนโทน


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาและทดลองสกัดสารประกอบแซนโทนจากเปลือกมังคุดอ่อน
คณะวิจัย : จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒม กรุงเทพ
สรุปผลการวิจัย : คณะวิจัยได้ทำการศึกษาและทดลองสกัดสารประกอบแซนโทนจำนวน 3 ชนิดออกจากเปลือกมังคุดอ่อน คือ mangostenol (1), mangostenone A (2), and mangostenone B (3) โดยสารประกอบแซนโทนทั้งสามชนิดนี้เป็นหนึ่งในจำนวนสารประกอบแซนโทนที่มีการวิจัยค้นพบแล้วกว่า 200 ชนิด และในเปลือกของผลมังคุดยังอุดมไปด้วยสารประกอบแซนโทนตามธรรมชาติกว่า 40 ชนิด


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาความสามารถในการต้านโรคเบาหวาน ของสารประกอบแซนโทนที่ชื่อ “mangiferin”
คณะวิจัย : จากมหาวิทยาลัย Suzuka University of Medical Science เมือง Mie ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยได้ศึกษาความสามารถในการต้านโรคเบาหวาน ของสารประกอบแซนโทนที่ชื่อ “mangiferin” และผลการวิจัยพบว่า สาร“mangiferin”สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลองที่มีภาวะโรคเบาหวาน type II


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาความสามารถของอนุพันธ์ของสารแซนโทนในการป้องกันหัวใจเต้นผิดจังหวะและความดันต่ำ
คณะวิจัย : จากมหาวิทยาลัย Jagiellonian ประเทศโปแลนด์ และจากมหาวิทยาลัย Meijo เมือง Nagoya ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาร่วมกันเกี่ยวกับผลการป้องกันสภาวะการทำงานของหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกิดจากอนุพันธ์ของแซนโทนยี่สิบชนิด ผลปรากฎว่ามีอนุพันธ์ของแซนโทนสามชนิดที่สามารถป้องกันป้องกันหัวใจเต้นผิดจังหวะและความดันต่ำได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาความสามารถของอนุพันธ์ของสารแซนโทนในการป้องกันการจับตัวเป็นก้อนของเลือด
คณะวิจัย : จาก Medical University School เมือง Liblin ประเทศโปแลนด์
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับผลการป้องกันการจับตัวเป็นก้อนของเลือดที่ได้จากอนุพันธ์ของแซนโทนสิบสองชนิด ผลปรากฎว่ามีอนุพันธ์ของแซนโทนห้าชนิดที่สามารถทำได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ผลมังคุดในการต่อต้านอาการภูมิแพ้และการอักเสบ ช้ำบวม
[บทความภาษาญี่ปุ่น] คณะวิจัย : จากคณะเภสัช มหาวิทยาลัย Tohoku เมือง Sendai ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยได้ใช้เปลือกมังคุดอ่อนในการทดลอง ผลปรากฎว่าได้พบสาร alpha-mangostin และ gamma-mangostin ซึ่งสามารถต่อต้านการประสานกันระหว่างฮิสตามีนและตัวรับฮิสตามีน เพื่อป้องกันอาการภูมิแพ้ และ การอักเสบ ช้ำบวม


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาคุณสมบัติการต้านแบคทีเรียทรงกลม (สเตปฟิโรคอกคัส ออเรียส) ของสารประกอบแซนโทนจากผลมังคุด โดยศึกษาจากอาหารที่มีการปนเปื้อน
คณะวิจัย : จากภาควิชา Pharmacognosy, มหาวิทยาลัย Gifu Pharmaceutical ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : งานวิจัยชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า สารแซนโทนที่สกัดจากผลมังคุด มีความสามารถต่อต้านต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียทรงกลมชนิด สเตปฟิโรคอกคัส ออเรียส และมีโอกาสที่จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในทางเภสัชศาสตร์


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบทางธรรมชาติที่ได้จากพืช ที่มีผลยับยั้งโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์)
คณะวิจัย : จากคณะเภสัช มหาวิทยาลัย Antwerp (UA) ประเทศเบลเยี่ยม
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่ามีสารประกอบทางธรรมชาติที่ได้จากพืชหลายชนิดที่สามารถยับยั้งโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) ได้ และหนึ่งในนั้น คือสารแซนโทนที่สกัดจากผลมังคุด ที่สามารถยับยั้งกระบวนการเพิ่มจำนวนของไวรัสเอดส์ได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบทางธรรมชาติที่ได้จากพืช ที่มีผลยับยั้งโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์)
คณะวิจัย : จากคณะเภสัช มหาวิทยาลัย Antwerp (UA) ประเทศเบลเยี่ยม
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่ามีสารประกอบทางธรรมชาติที่ได้จากพืชหลายชนิดที่สามารถยับยั้งโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) ได้ และหนึ่งในนั้น คือสารแซนโทนที่สกัดจากผลมังคุด ที่สามารถยับยั้งกระบวนการเพิ่มจำนวนของไวรัสเอดส์ได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการใช้สารประกอบแซนโทนส์ในมังคุดเพื่อยับยั้งเชื้อวัณโรค
คณะวิจัย : จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร กรุงเทพฯ ประเทศไทย
สรุปผลการวิจัย : การทดลองปรากฎผลว่า สาร alpha- and beta-mangostins and garcinone B มีความสามารถสูงในการต้านเชื้อวัณโรค


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการใช้สารประกอบแซนโทน เพื่อต่อต้านเชื้อมาลาเรีย
คณะวิจัย : จากมหาวิทยาลัย Oregon Health Sciences ประเทศสหรัฐอเมริกา
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่าสารประกอบแซนโทนสามารถส่งผลในการต่อต้านเชื้อมาลาเรียได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการยับยั้งการเกิดเอนไซม์ไซโคออกซิเจนเนส และสารโพสตราแกรนดิน ที่เป็นต้นเหตุของอาการอักเสบช้ำบวม โดยใช้ สารสกัดจากมังคุด
คณะวิจัย : จากภาควิชา Pharmaceutical Molecular Biology, Graduate School of Pharmaceutical Sciences มหาวิทยาลัย Tohoku เมือง Sendai ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : พบว่า สารสกัดจากมังคุดสามารถยับยั้งการเกิดเอนไซม์ไซโคออกซิเจนเนส และสารโพสตราแกรนดิน ที่เป็นต้นเหตุของอาการอักเสบช้ำบวมได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการใช้สารสกัดจากเปลือกมังคุดเพื่อป้องกันอาการของโรคภูมิแพ้ และอาการอักเสบช้ำบวม
คณะวิจัย : Chairungsrilerd N, Furukawa K, Ohta T,Nozoe S, Ohizumi Y
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่าสารแซนโทนจากเปลือกมังคุดสามารถป้องกันอาการของโรคภูมิแพ้ และอาการอักเสบช้ำบวมได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงปฏิกริยาในการต่อต้านอาการช้ำบวม อักเสบ ของสารประกอบแซนโทน
คณะวิจัย : จาก Kaohsiung Medical College ประเทศไต้หวัน
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาสารประกอบแซนโทนทั้งหมดเป็นจำนวนทั้งสิ้นสิบแปดชนิด และพบว่า แซนโทนจำนวนหนึ่งสามารถต้านการช้ำบวม ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเรื่องสาร Mangostin เพื่อยับยั้งปฎิกริยาอ๊อกซิเดชั่นของไขมันชั้นเลว (Low Density Lipoprotein) ในมนุษย์
คณะวิจัย : มหาวิทยาลัย Western Australia คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาล Royal Perth
สรุปผลการวิจัย : การศึกษาชิ้นนี้พบว่า ปฎิกริยาอ๊อกซิเดชั่นของไขมันชั้นเลว (คอเรสตอรอล) มีปัจจัยสูงที่จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวซึ่งสารประกอบ mangostin จะทำหน้าที่กำจัดสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการปฎิกริยาอ๊อกซิเดชั่นของไขมันชั้นเลว และป้องกันภาวะหลอดเลือดอุดตัน


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกันโรคความดันโลหิตและการคลายตัวของหลอดเลือด โดยสารที่สังเคราะห์ได้จากแซนโทน
คณะวิจัย : จากมหาวิทยาลัย Kaohsiung Medical เมือง Kaohsiung ประเทศไต้หวัน
สรุปผลการวิจัย : ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาความสามารถในการป้องกันโรคความดันโลหิต และการคลายตัวของหลอดเลือดในระบบหมุนเวียนโลหิต ที่เป็นผลมาจากแซนโทนและสารประกอบที่เกี่ยวข้อง ผลการทดลองสรุปว่าแซนโทนสามารถแสดงผลในการลดความดันโลหิตในหนูทดลองอย่างได้ผล


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบ aminoalkanolic ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของแซนโทน ในการป้องกันอาการชัก
คณะวิจัย : จากมหาวิทยาลัย Collegium Medicum Jagiellonian ประเทศโปแลนด์
สรุปผลการวิจัย : นักวิจัยได้ทำการศึกษา สารประกอบซึ่งเป็นอนุพันธ์ของแซนโทนในการป้องกันอาการชัก ซึ่งจากการวิจัยพบว่ามีอนุพันธ์ของแซนโทนหลายชนิด ที่มีฤทธิ์ในการป้องกันอาการชัก


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงกลไกการทำงานของสารประกอบแซนโทนที่มีต่อการขยายตัวของหลอดเลือด
คณะวิจัย : จากมหาวิทยาลัย National Taiwan ประเทศไต้หวัน
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่าสารประกอบแซนโทนสามารถส่งผลในการผ่อนคลายและขยายตัวของหลอดเลือด


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการใช้สารประกอบแซนโทน เพื่อป้องกันสภาวะหลอดเลือดตีบ
คณะวิจัย : จาก Kaohsiung Medical College ประเทศไต้หวัน
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่าสารประกอบแซนโทนสามารถส่งผลในการป้องกันสภาวะหลอดเลือดตีบได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการใช้สารประกอบแซนโทนในฐานะที่เป็นยาต้านโรคมะเร็ง
คณะวิจัย : จาก Kaohsiung Medical College ประเทศไต้หวัน
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยพบว่าสารประกอบแซนโทนมีประสิทธิภาพในการต้านเนื้องอกและเซลล์มะเร็งในมนุษย์


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงความสามารถของสารประกอบแซนโทนในการต้านโรคซึมเศร้า
คณะวิจัย : จาก Universite de Lausanne ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
สรุปผลการวิจัย : ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาสารประกอบแซนโทนหลายอนุพันธ์ และพบว่า แซนโทนจำนวนหนึ่งมีสักยภาพในการพัฒนาเป็นตัวยารักษาอาการซึมเศร้าได้


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงประสิทธิภาพของสารประกอบแซนโทนในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง
คณะวิจัย : จากภาควิชา Department of Hepatobiliary Surgery, First Affiliated Hospital of Medical College, Xi’an Jiaotong University, Xi’an 710061, Shaanxi, ประเทศจีน
สรุปผลการวิจัย : การศึกษาชิ้นนี้พบว่าสารประกอบแซนโทนมีส่วนในการยับยั้งการแบ่งตัว และการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาเกี่ยวกับการใช้สารประกอบแซนโทนส์ในมังคุดเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวของมนุษย์ (ลิวคีเมีย)
คณะวิจัย : จากสถาบันไบโอเทคโนโลยีนานาชาติ ที่เมือง Gifu ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : การศึกษานี้พบว่าสารแซนโทนทุกชนิดมีคุณสมบัติในการยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวของมนุษย์ และสารแซนโทน มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำให้เซลล์มะเร็งดังกล่าวตาย


หัวข้องานวิจัย : การศึกษาถึงประสิทธิภาพของสารประกอบแซนโทน 8 ชนิด ที่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้
คณะวิจัย : จากภาควิชา Pharmaceutical Molecular Biology, Graduate School of Pharmaceutical Sciences มหาวิทยาลัย Tohoku เมือง Sendai ประเทศญี่ปุ่น
สรุปผลการวิจัย : การศึกษาชิ้นนี้พบว่าสารประกอบ alpha-mangostin ให้ผลลัพท์ที่ดีที่สุดในการทำลายเซลล์มะเร็ง