มังคุด
ผลไม้ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” ด้วยรสชาติที่ดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะในเปลือกของผลมังคุดที่อุดมไปด้วยสารประกอบที่ให้คุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ
โดยที่ในเปลือกมังคุดมีสารประกอบจากพืช (Phytonutrient) ที่ให้ผลในการต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมาก และสรรพคุณทางยาของมังคุดนั้นยังมีอีกมากมาย โดยในสมัยโบราณนั้น เปลือกมังคุดถูกนำมาตากแห้งบดเป็นผงแล้วนำไปชงหรือต้มรับประทานเป็นยาแก้ท้องร่วง แก้บิด มูกเลือด แก้ไข้ท้องเสีย ถ้านำมาฝนกับน้ำปูนใสจะใช้ทาแก้แผลเน่าเปื่อยพุพอง ช่วยสมานแผลสด หรือใช้ต้มชะล้างบาดแผลก็ได้
ในปัจจุบันมังคุดเป็นผลไม้ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในฐานะผลไม้มหัศจรรย์ที่มีสารประกอบแซนโทนตามธรรมชาติสะสมอยู่ในเปลือกของผลมังคุดในปริมาณที่มากที่สุดเท่าที่จะสามารถพบได้ในธรรมชาติ โดยพบว่ามีสารประกอบแซนโทนทั้งในกลุ่มที่ละลายน้ำได้และที่ไม่ละลายในน้ำ มากกว่าผักและผลไม้อื่นๆ หลายเท่า ด้วยเหตุนี้เองสารสกัดจากเปลือกมังคุดจึงเป็นที่สนใจของผู้ที่รักสุขภาพ และแซนโทนที่พบในเปลือกมังคุดยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพในหลากหลายมิติ เช่น
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงยิ่ง ให้ผลในการต้านอาการอักเสบช้ำบวมที่อาจจะเกิดขึ้นบ่อยกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องข้อเข่าและข้อต่อของร่างกาย ให้ประโยชน์ในการลดอาการภูมิแพ้ ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจดีขึ้น และเป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ดี มีคุณสมบัติ ช่วยในการเพิ่มสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน มีคุณสมบัติ ช่วยในการลดการเกิด Oxidized LDL ซึ่งเป็นไขมันเลวที่ทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับอนุมูลอิสระในระบบหลอดเลือด และเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดการสะสมตัวของไขมันเลวที่ผนังหลอดเลือดและโรคหัวใจ การที่สารประกอบแซนโทนจากเปลือกมังคุดสามารถทำงานได้หลากหลายมิติเช่นนี้เอง จึงทำให้มังคุดจัดอยู่ในแถวหน้าสุดของผลไม้เพื่อสุขภาพในปัจจุบัน
ทับทิม
ร่างกายเรามีเลือดเป็นองค์ประกอบอยู่ถึง 7-8% ของน้ำหนักตัว นอกจากนี้แล้ว เลือดยังไหลเวียนอยู่ในหลอดเลือดขนาดต่าง ๆ
นับตั้งแต่หลอดเลือดแดงขนาดใหญ่ไปจนถึงหลอดเลือดฝอย ซึ่งประสานกันเป็นโครงร่างตาข่าย เลือดมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการรักษาชีวิต ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจน ป้องกันแบคทีเรียและไวรัสที่รุกรานเข้าสู่ร่างกาย และยังทำหน้าที่หยุดการไหลของเลือดเมื่อเกิดบาดแผล หากเลือดไหลออกจากร่างกายไปมาก การขนส่งออกซิเจนไปให้กับร่างกายก็จะไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะตกอยู่ภายใต้สภาวะการขาดออกซิเจน และหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบประสาทส่วนกลาง เช่น สมอง พบว่าหากขาดออกซิเจนไปแม้เพียงแค่ 5 นาที ก็จะหยุดการทำงาน และถ้าหากแก้ไขไม่ทันก็อาจเสียชีวิตได้
นอกจากทำหน้าที่ในการขนส่งออกซิเจนไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายแล้ว เลือดยังทำหน้าที่ขนส่งสารอาหารพวกน้ำตาล ไขมัน วิตามิน กรดอะมิโนและสารอื่นๆ ไปยังอวัยวะเป้าหมายภายในร่างกาย และเลือดยังเป็นหน่วยขนส่งของเสียที่ได้จากกระบวนการเมตาโบลิซึมหลายอย่างไปยังอวัยวะที่เกี่ยวกับการขับถ่ายของเสีย เช่นไต และยังทำหน้าขนส่งสารที่เป็นตัวยาออกฤทธิ์เพื่อใช้ในการรักษาโรคของแพทย์อีกด้วย ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าความสมบูรณ์ของระบบเลือดและระบบหลอดเลือดเกี่ยวข้องกับสุขภาพของเราทุกคนเป็นอย่างมาก ดังนั้นการดูแลรักษาระบบเลือดและหลอดเลือดให้สะอาดและมีความยืดหยุ่นสูงจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน
ทับทิมจึงถูกเลือกมาเพื่อภารกิจในการดูแลระบบเลือดและเพื่อสุขภาพที่ดีของระบบหลอดเลือดภายในร่างกาย ทับทิมนับเป็นผลไม้สีสวยที่มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนแถบเปอร์เซีย หรือประเทศอิหร่านในปัจจุบัน จากงานวิจัยจำนวนมากต่างยืนยันว่าผลทับทิมมีสารประกอบตามธรรมชาติในกลุ่มแซนโทน โดยเฉพาะ Hydrolysable Xanthones หรือสารประกอบแซนโทนในกลุ่มที่สามารถละลายน้ำได้อยู่ในปริมาณมากซึ่งให้ประโยชน์ที่ชัดเจนแก่ร่างกาย ไม่เพียงแต่ในด้านการป้องกันการเข้าทำลายเซลล์เนื้อเยื่อจากสารอนุมูลอิสระแต่ยังสามารถลดสภาวะการแข็งตัวของหลอดเลือด ที่มีสาเหตุมาจากภาวะไขมันในเลือดสูง ทับทิมจึงเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพหัวใจและเส้นเลือดโดยตรง
โกจิเบอรี่
โกจิเบอรี่ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อผลเก๋ากี้ ผลไม้ที่พบและปลูกกันมากทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน
ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารจีนหลากหลายชนิดมาแต่ครั้งโบราณ โดยมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา ช่วยในการทำงานของระบบประสาท ทำให้หลับสบาย ช่วยในเรื่องไตพร่อง บรรเทาอาการวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด สายตาไม่ดี โดยเฉพาะอาการตาบอดกลางคืน
ผลโกจิเบอร์รี่ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการรวม 21 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม และเจอร์มาเนียม มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า มีวิตามิน บี1 บี2 บี6 และวิตามินอี มีสารโพลี่แซคคาไรด์เป็นส่วนประกอบถึง 4 ชนิด ได้แก่ : LBP-1, LBP-2, LBP-3, LBP-4 ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุลดี ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ ช่วยให้น้ำตาลในเลือด และอินซูลินอยู่ในสภาวะสมดุล ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมัน ช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีให้สู่ปกติได้เร็วขึ้น มีสารซิแซนทิน (Zeaxanthin) สูงถึง162 มก./100 กรัมสูงกว่าสาหร่ายเกลียวทองประมาณ 5 เท่า ช่วยบำรุงสายตา และป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา มีส่วนช่วยให้ผู้ที่มีอาการต้อลม ตาพร่า ตามัว ให้คืนสู่สภาพปกติได้ดียิ่งขึ้น และในปัจจุบันผลโกจิเบอร์รี่ก็เป็นที่นิยมในประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิเช่นสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ เพราะผลโกจิเบอร์รี่ อุดมไปด้วยคุณค่าด้านสารอาหารและมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่ดี
ด้วยเหตุนี้เอง โกจิเบอร์รี่จึงเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่ถูกเลือกให้เป็นองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรค เนื่องจากโกจิเบอร์รี่มีคุณภาพเฉพาะตัวหลายประการที่ไม่พบในมังคุดและทับทิม ดังนั้นหน้าที่ของโกจิเบอร์รี่จึงเป็นส่วนผสมหลักอีกชนิดหนึ่งที่จะมาเติมเต็มคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ซุปเปอร์โฟร์แรค สามารถให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างหลากหลาย
อาไซอิเบอร์รี่
Açaí Berry เป็น ผลของพืชตระกูลปาล์มที่มีถิ่นกำเนิดในดินแดนแถบลุ่มน้ำอเมซอนประเทศบลาซิล
โดยอาไซอีเบอร์รี่เป็น พืชทีเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีประวัติการใช้ในฐานะอาหารที่มีมีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพของชนพื้น เมืองในแถบลุ่ม น้ำอเมซอนมาอย่างยาวนาน แต่สิ่งที่ทำให้ผลไม้ชนิดนี้แตกต่างจากเบอร์รี่ทั่วๆไป นั่นคือในผลอาไซอีเบอร์รี่ อุดมไปด้วยกรด อะมิโน กรดไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก และ ผลลัพท์จากการใช้งานในฐานะผลไม้ระดับซุปเปอร์ฟรุ๊ตที่ปรากฏให้เห็นเด่นชัด ทำให้อาไซอีเบอร์รี่ถูกจัดให้อยู่ในเมนูสุขภาพ ของนักโภชนบำบัดชั้นนำของโลก งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ เปิดเผยให้เห็นความลับและคุณสมบัติที่น่ามหัศจรรย์ของอาไซอีเบอร์รี่อย่าง ต่อเนื่อง อาทิเช่น
• มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูง และมีส่วนช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง
• มีส่วนช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
• ให้พลังงาน
• อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่นโปรตีนและกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว
• อุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย
• มีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารสูง
• มีส่วนช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร และการควบคุมน้ำหนัก
• มีส่วนช่วยในกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย
